หมวดหมู่: กีฬา

1aaaA1ABaAPan4


'ปั่นไปไม่ทิ้งกัน ปี 2' ก้าวสู่วันที่ 4'ระยอง-จันทบุรี'ระยะทาง 118 กิโลเมตร รวมพลังนักปั่นเสื้อส้ม 'No One Left Behind'ชาวระยองผนึกกำลังสนับสนุน'ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน'

      'ปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2' วันที่ 4 เริ่มปล่อยตัวจากสวนศรีเมือง จังหวัดระยอง เวลา 8.30 น. โดยมีนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นางดารารัตน์ แก้วสลับสี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระยอง นายมานะ ภูนิธิ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดระยอง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ตัวแทนภาคเอกชน และประชาชน เข้าร่วมพิธีปล่อยขบวนนักปั่นผู้พิการทางสายตาและนักปั่นจิตอาสา จำนวนกว่า 70 ชีวิต เดินทางต่อไปยังจังหวัดจันทบุรี ภายใต้ภารกิจระดมทุนสานฝัน ‘ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน’ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

         พิธีปล่อยตัวในช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้เข้าร่วมงานอย่างเนืองแน่นเป็นพิเศษ จำนวนกว่า 300 คน ทั้งประชาชนที่มาออกกำลังกายที่สวนศรีเมือง กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้พิการในพื้นที่ ตลอดจนเหล่าบรรดาชมรมนักปั่นจักรยานในจังหวัดระยอง ต่างให้ความสนใจซื้อเสื้อยืดที่ระลึกโครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน ปี 2 จนบรรยากาศเต็มไปด้วยกองทัพนักปั่นในชุดเสื้อสีส้มสดใส ด้านคณะนักปั่นตาบอดและนักปั่นจิตอาสายังใจสู้ บางคนยืดเส้นยืดสายบริหารร่างกาย บางคนเติมพลังด้วยอาหารว่าง เช่น ขนมปัง กล้วยน้ำว้า แตงโม มะม่วง กาแฟ เตรียมพร้อมเดินทางต่อไปยังจุดหมายที่จังหวัดจันทบุรี

        ขณะเดียวกัน ได้รับมอบเงินบริจาคจากน้ำใจชาวเมืองระยองเป็นจำนวนเงินกว่า 206,000 บาท (สองแสนหกพันบาท) โดยมีนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นตัวแทนส่งมอบเงินจำนวนดังกล่าว เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ให้แล้วเสร็จ ซึ่งจะเป็นต้นแบบศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้กับผู้พิการ

        นายวารินทร์ ดุษฎีวงษ์กำจร รองนายกเทศมนตรีเมืองระยอง กล่าวว่า โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2 จะสร้างแรงบันดาลใจในการต่อสู้ชีวิตให้แก่ผู้คนในสังคม

        "แนวคิดการปั่นจักรยานเป็นระยะทาง 1,500 กิโลเมตร เพื่อรณรงค์โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน ระดมทุนสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน นอกจากจะทำให้ประชาชนหันมาสนใจออกกำลังกายและเล่นกีฬาแล้ว ยังแสดงให้เห็นความเป็นนักสู้ของเหล่าคณะนักปั่นจักรยานตาบอด แม้พวกเขาจะมีร่างกายไม่สมบูรณ์ แต่พวกเขามีหัวใจที่แข็งแกร่ง มีความสามารถเป็นเลิศในด้านอื่นๆ ไม่แพ้คนปกติ" นายวารินทร์กล่าว

        สำหรับ เส้นทางการปั่นจักรยานของวันที่สี่ เริ่มเคลื่อนขบวนจากสวนศรีเมือง จังหวัดระยอง โดยใช้ถนนสุขุมวิท แวะพักจุดแรกที่หน่วยบริการประชาชนทางหลวงสวนสน ก่อนจอดพักรับประทานอาหารกลางวันที่เทศบาลตำบลทุ่งควายกิน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ซึ่งได้มีการจัดพิธีส่งมอบการดูแลคณะนักปั่นโครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน โดยได้ว่าที่ร้อยตรีพิรุณ เหมะรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และนายบุญช่วย น้อยสันเทียะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานร่วมกัน เพื่อคอยอำนวยความสะดวกแก่คณะนักปั่นจนถึงจุดหมาย

     จากนั้นปั่นต่อไปยังจุดที่สาม ปั๊มน้ำมันเชลล์นายายอาม และจุดที่สี่ ปั๊มน้ำมันปตท.สงวนสินเอ็นเนอร์ยี่ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดระยอง ก่อนมุ่งหน้าสู่ศูนย์การศึกษาพิเศษจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี รวมระยะทางทั้งสิ้น 118 กิโลเมตร โดยคาดว่าจะถึงจุดหมายในเวลา 17.30 น.

       บรรยากาศการปั่นในวันนี้เต็มไปด้วยอุปสรรค เนื่องจากเป็นเนินยาวหลายช่วง บวกกระแสลมแรง และอากาศร้อนจัด ส่งผลให้นักปั่นหลายคนมีสีหน้าเหน็ดเหนื่อย ท่าทางอ่อนล้า แต่ก็ยังกัดฟันสู้มุ่งหน้าไปยังจุดหมายได้อย่างน่าชื่นชม

      ขณะเดียวกัน ทีมนักปั่นพุ่มจำนวน 30 คัน ยังคงแยกไประดมเงินบริจาคตามจุดต่างๆในจังหวัดระยอง เช่น ตลาดวัดลุ่ม ตลาดแม่แดง ตลาดตะพง ตลาดบ้านเพ เป็นต้น โดยมีพี่น้องประชาชนเข้ามาให้กำลังใจกันอย่างอบอุ่น โดยยอดเงินบริจาคจากช่องทางต่างๆที่ได้รับทั้งสิ้นในขณะนี้ อยู่ที่ประมาณ 3.5 ล้านบาท (สามล้านห้าแสนบาท)

      สำหรับ เส้นทางปั่นจักรยานในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันที่ 5 (วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562) จะเริ่มต้นที่ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี โดยมีจุดหมายที่จังหวัดตราด ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีทัศนียภาพสวยงาม ฟ้าใส ทะเลสวย แต่มีอุปสรรคคือเนินเขาสูงชันท้าทายตลอดเส้นทาง ระยะทางทั้งสิ้น 105 กิโลเมตร

     โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2 ถือเป็นครั้งที่สองของประเทศไทย ที่ผู้พิการตาบอดจำนวน 20 ชีวิต ร่วมกับนักปั่นจิตอาสาปั่นนำอีก 20 ชีวิต จะรวมพลังสามัคคีปั่นจักรยานเป็นระยะทางรวมกว่า 1,500 กิโลเมตร 14 วัน 15 จังหวัด ระหว่างวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ถึงวันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 โดยเริ่มต้นจากกรุงเทพมหานคร ผ่านจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดนครปฐม เพื่อหาทุนสนับสนุนการก่อสร้าง ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ภายใต้ความมุ่งหวังที่จะสร้างงานสร้างอาชีพให้ผู้พิการอย่างยั่งยืน และยังเป็นการสานต่องานที่ “พ่อ” ทำ ด้วยการเปลี่ยน “ภาระ” ให้กลายเป็นอีกหนึ่ง “พลัง” ในการพัฒนาและสร้างสรรค์สังคม.

Click Donate Support Web

ais 790x90

GC 950x120

sme 720x90SIAM790x90

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!